Tuesday, August 16, 2005
Monday, August 15, 2005
Sunday, August 14, 2005


เวลา 12.35 น. คนขับรถของคุณวาณี ล่ำซำ เอารถมารับไปเยี่ยมชมวัดอมราวดี เมือง Hempstead ห่างจากกรุงลอนดอน
ประมาณ 1 ช.ม. ขับรถผ่านชานเมืองซึ่งมีชาวเรือนแพอาศัยอยู่ที่ริมแม่น้ำ Thames รถวิ่งผ่านเมืองต่างๆไปเรื่อยๆ ทิวทัศน์สวยงามมาก ส่วนมากจะเป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และมีสนามหญ้ากว้างๆ มองเห็นสีเขียวของหญ้าและข้าว Barley ไกลสุดสายตา รถวิ่งไปตามถนนแคบ แต่การจราจรไม่ค่อยคับคั่งมากนัก หมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านชนบทเก่าๆ ซึ่งยังคงความอนุรักษ์นิยมของชาวอังกฤษ บ้านอายุอย่างน้อย 100 ปีขึ้นไป
รถเข้าถึงวัดอมราวดีประมาณบ่ายโมงกว่า เข้าพบท่านสนทจิตโต รองเจ้าอาวาสและท่านเจ้าคุณพระสุเมธาจารย์ (สุเมโช ภิกขุ)
พูดคุยสนทนาธรรมกันบนศาลา ซึ่งเป็นห้องโถงกว้างขวางพอสมควร เมื่อก่อนเป็นโรงเรียนเก่าแต่ได้รับการดัดแปลงเป็นศาลาอเนกประสงค์ คือเป็นที่ไหว้พระสวดมนต์ แสดงธรรม ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
อีกด้านหนึ่งของศาลานี้ก็เป็นพระอุโบสถรูปทรงแปดเหลี่ยมยอดแหลมเหมือนเจดีย์ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ยังไม่เรียบร้อย ประมาณ 70% ท่านเจ้าคุณก็ได้พาเดินชมภายในของอุโบสถนั้น ซึ่งทุกอย่างออกแบบให้ประสมกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และสำคัญที่สุดก็คือต้องใช้ประโยชน์ได้ทุกตารางนิ้ว อุโบสถนี้ใช้เวลาสร้างมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว (และใช้งบประมาณในการก่อสร้าง £ 10 ล้านปอนด์)
เมื่อเดินชมบริเวณพอสมควรแล้วก็ออกมาด้านหน้าพระอุโบสถ และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นก็เดินชมอาคารที่พักและห้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีทั้งสำหรับพระภิกษุ แม่ชี และฆราวาส เป็นหลังๆจำนวนมาก และบริเวณกว้างประมาณ 30 Acre สถานที่สะอาด ร่มเย็น สมเป็นวัดพุทธศาสนา


เวลา 8.00 น. เป็นเวลาทำวัตรเช้า พระสงฆ์ทั้งหมดมีหลวงพ่อ-หลวงพ่อลีลานันทะ พระอาจารย์มหาสุทัศน์-พระมหาบัญชา และข้าพเจ้า ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเช้าเป็นเวลาประมาณ 30 นาทีก็จบ
จากนั้นก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกที่หน้าพระประธานในพระอุโบสถต่อหน้าหลวงพ่อดำ-หลวงพ่อทองที่ศักดิ์สิทธิ์และคู่วัดพุทธปทีปมาเป็นเวลานานแล้ว
ในโอกาสนี้หลวงพ่อได้มอบหนังสือ “ข้อเขียนจากความคิด” และ “ประวัติวัดไทยฯ ดี.ซี.” ให้แก่หลวงพ่อลีลานันทะตัวแทนเจ้าอาวาสซึ่งท่านเดินทางไปเมืองไทย
จากนั้นก็ชมจิตรกรรมฝาผนังแห่งพระอุโบสถซึ่งมีชื่อเสียงทั่วประเทศไทยและประเทศในยุโรป โดยฝีมือของช่างเฉลิมชัย โมษิตพิพัฒน์ และคุณบัญชา วิจินธนสาร และเพื่อนๆอาสาสมัครประมาณ
30 กว่าคนร่วมกันแสดงฝีมือเป็นพุทธบูชาและเป็นการเผยแพร่ศีลปะไทยแก่ชาวโลก โดยอุทิศแรงกายเขียนภาพเหล่านี้ให้กับทางวัดฟรี โดยใช้เวลาประมาณ 3 ปีกว่าจึงเสร็จ ซึ่งเป็นศิลปะไทยร่วมสมัยที่สวยงามมากยากที่จะหาที่ไหนเทียบได้
พระอุโบสถวัดพุทธปทีปนอกจากจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีชื่อแล้ว ชั้นล่างของพระอุโบสถยังเป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและเป็นสถานที่ทำบุญแก่ญาติโยมทั้งหลายอีกด้วย
ส่วนความงดงามของสถาปัตยกรรมไทย โดยนอกนั้นเป็นพระอุโบสถขนาดเล็กกะทัดรัด หลังคาจตุรมุขมุงกระเบื้องสีแดง มีช่อฟ้าใบระกา ประดับกระจกสีเหลืองอร่ามงามสง่าเหมือนทางทอง กำแพงแก้วรอบนอกย่อมุมไม้สิบสองลดหลั่นกัน 3 ชั้น ตั้งอยู่บนเนินดิน และอีก
ด้านหนึ่งเป็นสระน้ำ มีสัตว์ป่าประเภทนกเป็ดน้ำ-นกหงส์ป่า, กระรอก และนกต่างๆมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ทำให้ได้บรรยากาศในตอนเช้านี้ มีหมอกลงพอประมาณและได้ยินเสียงนกร้อง แสงเงินแสงทองเรืองแสงขึ้นรำไร ส่องกระทบกับยอดช่อฟ้าซึ่งเป็นสีทองเปล่งประกาย สะท้อนแสงลงไปในน้ำที่สระอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นเสมือนจิตรกรผู้มีฝีมือดีมาแต่งแต้มไว้
ในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะบันทึกภาพแห่งความประทับใจนี้ไว้เป็นที่ระลึก
